ได้อ่านข่าวคดี "เสี่ยตุ้ม" นายสมนึก จรูญจิรเสถียร อายุ 57 ปี หุ้นส่วนบ่อนการพนันประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา ตรงข้าม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี แล้วรู้สึกสะท้อนใจ ว่าเหตุใดการจะลงมือลักพาตัวใครสักคน มันง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากขนาดนั้นเชียวหรือ... ผู้รักษากฎหมาย หน่วยงานที่ดูแลความมั่นคง หรือแม้กระทั่งผู้รักษาความปลอดภัยในเขตแดน ไม่ผ่านหูผ่านตาบ้างเลยหรือไร...?
ในชีวิตของ "อาสาม ไทม์แมชชีน" เคยเห็นคดีในลักษณะแบบนี้แล้วหลายคดี จากอดีตถึงปัจจุบันมันก็ยัง "คงอยู่" หลายคดีมาพบศพภายหลัง แต่บางคดีก็กลายเป็น "คนสาบสูญ" จนญาติพี่น้องเชื่อว่าเขาหรือเธอคนนั้น ไม่มีทางกลับมาแล้ว...!
ตะลึง! ดาวค้างฟ้า "ศรินทิพย์" ดาวค้างฟ้าวงการบันเทิง ถูกอุ้มหาย
หากย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน จู่ๆ ดาวค้างฟ้า แห่งวงการบันเทิงที่ยังคงจรัสแสงก็หายวูบไปอย่างปริศนา กระทั่งเรื่องนี้ถูกเปิดเผย เมื่อเวลา 11.55 น. วันที่ 3 ธ.ค. 2530 นายสง่า หรือ "ชาลี อินทรวิจิตร" สามี ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ นักแต่งเพลงชื่อดัง ในวัย 64 ปี (ขณะนั้น) ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ต.ชลอ พูลเกิด ร้อยเวร สน.ลาดพร้าว ว่า นางไพลิน อินทรวิจิตร หรือ "ศรินทิพย์ ศิริวรรณ" อายุ 61 ปี ภรรยาที่อยู่กินกันมากว่า 40 ปี ได้ออกจากบ้านแล้วหายตัวไปอย่างปริศนา
นายชาลี บอกกับตำรวจว่า คืนวันที่ 2 ธ.ค. ขณะที่ นางศรินทิพย์ อยู่ในบ้านพัก ได้มีชายคนหนึ่งโทรเข้ามาอ้างว่าอยู่บริษัทรับถ่ายแบบแห่งหนึ่ง ติดต่อมาให้ถ่ายโฆษณาทั่วไป แถมยังอ้างว่า มี "ยุรนันท์ ภมรมนตรี" นักร้องนักแสดงก็มาด้วย ทางผู้ติดต่อบอกว่ารอรับอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง หลังตกลงกันได้ เธอก็นำชุดไทย 1 ชุด ใส่กระเป๋าถือขนาดเล็กขึ้นแท็กซี่ไป เมื่อติดต่อเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทดังกล่าวที่ให้ไว้ ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวไม่มี" ชาลี ให้การกับเจ้าหน้าที่
"ภรรยาเป็นคนน่ารัก ไม่เคยมีศัตรูหรือปัญหาด้านผลประโยชน์ หรือขัดแย้งกับใคร ดังนั้นการหายตัวไปของภรรยาทำให้ผมรู้สึกงุนงงมาก แต่ไม่เชื่อว่าจะถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ เพราะฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ซ้ำยังเป็นหนี้สินรายย่อยๆ ด้วย" ชาลี ให้การกับตำรวจอีกครั้งในวันถัดมา
ผ่านมา 3 วัน ก็ยังคงไร้วี่แววเจอ "ศรินทิพย์" ขณะที่ ชาลีและครอบครัวก็ยังไม่คิดว่าเธอถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ เพราะไม่มีใครโทรศัพท์หรือส่งจดหมายมา
"เราเป็นคนไทยด้วยกัน ขอให้เห็นอกเห็นใจกัน ให้อภัยกัน อย่าคิดร้ายต่อกัน ศรินทิพย์ก็แก่แล้ว อยู่อีกไม่กี่ปีหรอก ขอความกรุณาอย่าทำร้ายเธอ" ชาลีอ้อนวอนผ่านสื่อ
ตำรวจตั้ง 2 ปม ภรรยางอนสามีหนีหาย กับ ถูกลักพาตัว
ในทางคดี หลังจากหายเงียบไปหลายวัน ทางตำรวจก็ออกมาให้ข้อมูล ยังไม่ทราบสาเหตุของการหายตัวไป ในขณะที่ นายชาลี ก็ให้การคาดว่าสาเหตุมาจากตัวเองส่วนหนึ่ง เพราะภรรยาเคยขอให้เลิกเล่นการพนัน เพราะเป็นสิ่งที่รังเกียจ แต่ได้ผัดผ่อนจึงคาดว่าอาจจะทำให้ภรรยาโกรธ และหนีหายไป ซึ่งต่อมาก็มีกระแสข่าวลือว่าเธอไปบวชชีที่วัดดังย่านปทุมธานี แต่ผู้สื่อข่าวไปตามหากลับไม่พบตัว
ส่วนอีกเรื่อง กรณีถูกลักพาตัวนั้น มีพยานเห็นว่า ศรินทิพย์ มายืนรอที่บริเวณหน้าฟาสต์ฟู้ดหน้าห้างย่านรามคำแหง เวลา 20.00-20.30 น. จากนั้นได้มีชายขับรถโตโยต้า ดีเอ็กซ์ สีเทา ไม่ทราบทะเบียน โดยใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ผ้าพันคอสีเหลืองหรือสีไข่ไก่ มารับขึ้นรถ จึงเชื่อว่าอดีตดาวค้างฟ้าไม่ได้หายไปเพราะความจงใจแน่
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้เชิญตัว 2 พ่อลูก ที่เคยเป็นลูกน้องเก่าของชาลี ที่อาจจะเคยมีเรื่องบาดหมางกัน คือ นายพิศาล หรือ อู้ โกมลนิมิ อายุ 42 ปี กับ นายไพศาล หรือ อูฐ อายุ 20 ปี บุตรชายนายพิศาล ซึ่งกลายเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบ ทั้งคู่ให้การปฏิเสธ และไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น
1 เดือนผ่านไป การตามหาตัวดาวค้างฟ้าก็ยังไม่ลดละ แต่ก็ยังไร้วี่แววที่จะพบตัว ซึ่ง "ชาลี" ก็ได้อ้อนวอนผ่านสื่อ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เกิดประโยชน์อันใด กระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 2 ก็มีรายงานว่า ศรินทิพย์ ไปโผล่ที่เมืองเพชรบุรี กระทั่งมีการส่งนักข่าวลงพื้นที่ไปตามหา อธิบดีกรมตำรวจ ได้ออกคำสั่งให้ติดตามตัว แต่ก็เหมือนเดิม ที่ไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด กระทั่ง ชาลี ได้ล้มป่วยเพราะอ่อนเพลียและเครียด...
แสนเจ็บปวดทรมานใจ ภรรยารักหายตัว ทำใจอาจจะเสียชีวิตแล้ว
ชาลี ในสภาพหน้าซูบเซียว อิดโรย และต้องให้น้ำเกลืออยู่ตลอดเวลา กล่าวว่า ได้มีอาการหน้ามืดแล้วเกิดฟุบไปตอนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน โชคดีที่มีหลานชายมาพบ และนำตัวส่งโรงพยาบาล
"พยายามไปทุกที่ตามที่มีผู้หวังดีแจ้งมา แต่ไม่พบเลยรู้สึกเจ็บปวดและทรมานใจมาก ตลอด 2 เดือนที่ออกตามหา สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ก็ถือว่าดี ไม่ตรอมใจตายเสียก่อน ครั้นไปพึ่งหมอดูก็บอกว่า ศรินทิพย์ ตายไปแล้ว ยิ่งทำให้ท้อแท้และหดหู่ จึงได้แต่บนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้หลายแห่ง และยังหวังว่าจะได้พบหน้าภรรยาอีกครั้ง" นักแต่งเพลงชื่อดัง กล่าวอย่างมีความหวังลึกๆ
เข้าสู่เดือนที่ 3 ศิลปินแห่งชาติเริ่มจะทำใจได้ว่า ภรรยาสุดที่รักอาจจะเสียชีวิตแล้ว จึงได้แต่ทำใจและทำบุญไปให้ แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดเมื่อมีการกล่าวถึง
"ในช่วงแรกคนส่งจดหมายเบาะแสมาให้มากมาย แต่ตามไปหาก็ไม่มีร่องรอย จนในที่สุดเลยต้องรวบรวมจดหมายเผาทิ้งไป เหลือไว้ก็รังแต่เพิ่มความเศร้าหมอง"
ซึ่งก็สอดคล้องจากรายงานของเจ้าหน้าที่ ที่เชื่อว่า "ศรินทิพย์" เสียชีวิตแล้ว โดยตั้งปมการลักพาตัว...
4 ปีผ่านไป ตำรวจวิสามัญผู้ต้องสงสัยลักพาตัว "ดาราอาวุโส" หลังเปิดฉากยิงสู้ตำรวจ
คดีนี้เงียบหายไปอย่างยาวนาน กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ย. 2534 ก็มีรายงานข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.หัวหิน รับแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายในซอยข้างห้องทัพพีแก้ว ถนนตก ซึ่งเป็นบริเวณชายทะเลหัวหิน โดยที่เกิดเหตุพบศพ นายพิศาล หรือ อู้ โกมลนิมิ อายุ 46 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืน .38 จำนวน 2 นัด ที่ใต้ราวนมซ้าย และที่แก้มซ้ายอีก 1 นัด ข้างตัวพบปืน 11 มม. ตกอยู่...
ก่อนเปิดฉากยิงกันอย่างดุเดือด ต้องย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2532 สืบเนื่องจาก หมายจับ สน.ลาดพร้าว ที่ 171/2532 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2532 ระบุว่า เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2530 เวลา 17.00 น. นายพิศาล ได้โทรศัพท์ติดต่อ นางไพลิน หรือ ศิรินทิพย์ ไปถ่ายแบบ จากนั้นก็หายตัวไป กระทั่งวันที่ 6 ธันวาคม 2530 นายไพศาล ได้โทรศัพท์ถึงนายชาลี แจ้งว่าได้จับตัวศิรินทิพย์ไว้ ให้นำเงิน 1 ล้านบาทเป็นค่าไถ นายชาลี จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อ สน.ลาดพร้าว จากนั้น พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผกก.สส.น.เหนือ (ขณะนั้น) ได้ซุ่มทำคดีนี้มาตลอด กระทั่งมีการประสานกับ พ.ต.อ.มาโนช รัตนวิไล ผกก.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ติดตาม ซึ่งทราบว่า นายพิศาล ได้หนีมากบดานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในบริเวณดังกล่าว เมื่อพบตัว นายพิศาลพยายามวิ่งหนีและยิงต่อสู้ กระสุนยิงไปถูกรถสายตรวจเจ้าหน้าที่ 1 นัด แต่ นายพิศาล ถูกยิงเสียชีวิตสิ้นใจคาที่...
หลังควันปืนเริ่มจาง พล.ต.ต.จารึก เมฆวิชัย รอง ผบช.น. เผยว่า นายพิศาล คือ 1 ใน 3 ของคนร้ายที่ลักพาตัว นางศิรินทิพย์ ตัวจริง
การตายของ นายพิศาล ผู้ต้องสงสัย ทำให้เกิดปัญหาใหม่ คือ จะหาศพอดีตนางเอกดังอย่างไร...?
ในเรื่องนี้ พ.ต.อ.วิบูลย์ศักดิ์ สิทธิเดชะ ผกก.สส.น.เหนือ เผยว่า ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามอีก 2 คน ซึ่งเป็นญาติกับนายพิศาล ซึ่งรายงานระบุว่า นางศิรินทิพย์ ถูกรัดคอฝังดิน บางข่าวก็บอกว่าถูกจับถ่วงน้ำ เมื่อนายพิศาลตาย ทำให้ตำรวจกังวลว่าจะรู้จุดฝัง นางศิรินทิพย์ ได้อย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่บางคนถึงกับต้องหวังพึ่งไสยศาสตร์
ส่วนสาเหตุการถูก “อุ้ม” นั้น แหล่งข่าวระดับสูงได้เปิดเผยกับ “ไทยรัฐ” ว่า นายพิศาล กับ นายชาลี ผิดใจกันในเรื่องหนี้สิน นายพิศาล แค้นใจจึงได้ชวนเพื่อนอีก 2 คนร่วมลักพาตัว จากนั้นก็ได้โทรมาเรียกค่าไถ่ แต่นักแต่งเพลงชื่อดังจำเสียงได้ จึงได้แจ้งตำรวจกองปราบ จากนั้นก็ได้เชิญตัวมาสอบแต่ก็ไม่ได้ข้อมูลกระจ่างจึงต้องปล่อยตัวไปก่อน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 คนคือ นายไพศาล ซึ่งเป็นลูกชายของนายพิศาล ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตาย ทั้งนี้ นายไพศาล ยอมรับว่ารู้จักดาราดัง เพราะบิดาเคยแนะนำให้รู้จัก แต่ไม่รู้เห็นกับเหตุลักพาตัว...
"ศรินทิพย์" เป็นบุคคลสาบสูญ ศาลยกฟ้องผู้ต้องสงสัย ระบุ ไม่พบศพจึงไม่รู้ว่าตายหรือยัง
เมื่อจับตายได้ 1 คน และรวบได้อีก 1 ผู้ต้องสงสัย เรื่องนี้ก็เงียบหายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์อีกครั้ง กระทั่งวันที่ 2 ก.พ. 2536 นายชาลี ได้ยื่นร้องต่อศาลให้ นางไพลิน หรือ ศิรินทิพย์ เป็นบุคคลสาบสูญ เนื่องจากไม่พบตัวมานาน 5 ปี จนกระทั่งปัจจุบัน และเพื่อที่จะจัดการทรัพย์สินมรดก
วันที่ 18 พ.ย. 2536 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษายกฟ้อง นายไพศาล ซึ่งศาลพิจารณาว่า โจทก์มีเพียงพยานปากเดียว และไม่มีพยานหลักฐานชี้ชัดว่า นางศิรินทิพย์ถึงแก่ความตายหรือยัง ซึ่งไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับจำเลยหรือไม่ ส่วนการเรียกเงินอาจเป็นการสวมรอยของคนร้าย จึงพิพากษายกฟ้อง....
นางศรินทิพย์ ศิริวรรณ เดิมชื่อ ไพลิน เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2469 ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรของ นายโทมัส คลอริน และ นางลำใย
พอเริ่มโต ศรินทิพย์ ก็เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ขายลอตเตอรี่ แล้วไปฝึกร้องเพลงกับ ครูอรุณ แก่งวินิจ ได้ไปร้องประจำวงดนตรีสรรพสามิต กระทั่งเข้าสู่วงการภาพยนตร์ เมื่อปี 2490 โดยแสดงหนังเรื่องแรกชื่อ "โรงแรมนรก" จากนั้นได้รับตุ๊กตาทองในฐานะดาราตัวประกอบหญิงยอดเยี่ยม จากเรื่อง ขบวนการเสรีจีน ได้รับตุ๊กตาทองจากเรื่อง “ลูกอีสาน” และ “ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท” จากนั้นก็มีผลงานต่อเนื่อง โดยบทเด่นที่คนสมัยนั้นจำได้คือ “หม่อมแม่” จาก บ้านทรายทอง ที่มี “จารุณี สุขสวัสดิ์” เป็นนางเอก
สำหรับในตอนหน้านั้น จะมีคดี “อุ้ม” คดีไหนที่น่าสนใจอีก โปรดติดตาม...
อาสาม ไทม์แมชชีน ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
Source : http://www.thairath.co.th/content/583580
