ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่อ่านสารนายกรัฐมนตรีเนื่องในวันอุบัติภัยแห่งชาติ และไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว จากนั้นผู้ร่วมพิธีได้ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที ไว้อาลัยแก่ผู้ล่วงลับ จากนั้นผู้ประกอบพิธี 3 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ และอิสลาม จากนั้นประธานในพิธี มอบดอกไม้และพวงมาลา ทำจากสแตนเลส แก่ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อนำลงเรือไปวาง ที่บริเวณอนุสรณ์สึนามิใต้น้ำหน้าอ่าวต้นไทร ห่างจากฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร
จากนั้นผู้ร่วมงานก็ได้นำดอกไม้วางบริเวณใต้ต้นไทร ไว้อาลัยแด่ผู้วายชนม์ ส่วนภายในบริเวณงานยังมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เนื่องในวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เพื่อเตรยีมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกอบต.อ่าวนาง กล่าวว่า เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งอันดามัน เมื่อปลายปี47 ส่งผลให้จังหวัดที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยสร้างความเสียหายต่อชีวิและทรัพย์สินจำนวนมาก นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ และเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับพื้นที่จังหวัดกระบี่และเกาะพีพี ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุธรณีพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 722 คน ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 11 ก็ยังมีญาติผู้เสียชีวิตมาร่วมงานทุกปี
ขณะที่นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า หอแจ้งเตือนภัยพิบัติ ทั้ง 32 หอ ที่ติดตั้งกระจายตามสถานที่เสี่ยงภัยในพื้นที่จังหวัดกระบี่ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานครบทุกหอ ส่วนกรณีป้ายบอกเส้นทางหลบหนี สึนามิ ที่ชำรุด ขณะนี้อยู่ระหว่าง รอบประมาณดำเนินซ่อมบำรุงและเพิ่มจำนวนตามความเหมาะสม
ส่วนที่บริเวณเรือตำรวจน้ำ 813 บ้านบางเนียง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายความอาลัย แด่คุณพุ่ม เจนเซ่น และผู้ที่จากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อ 11 ปีก่อน ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ธรณีพิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดในประเทศไทย เช่นเดียวกับที่บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ก็ได้จัดให้มีพิธีวางพวงมาลาแสดงความอาลัย ต่อผู้จากไปในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย
จากนั้นได้มีการอ่านสารพลเอกประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีถึงญาติผู้ประสบภัย และคนไทยทั้งประเทศ ให้เพิ่มทักษะการเรียนรู้รับมือภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศของโลก เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยเมื่อปลายปี 2547 ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิต และทรัพย์สินประชาชนในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในประเทศไทยเสียชีวิต สูญหาย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ซึ่งนับเป็นภัยร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย คณะรัฐมนตรีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการป้องกัน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติในอนาคต จึงมีมติให้วันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ โอกาสนี้ได้มีการมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการช่วยเหลือผู้ประจำภัย จำนวน 12 ราย และประกอบพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา ซึ่งประกอบด้วย ศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม
โดยที่บริเวณสวนอนุสรณ์สถานบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง และที่บริเวณเรือตำรวจน้ำ 813 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า กำหนดจัดนิทรรศการวันป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ อ่านสารจากนายกรัฐมนตรี มอบเกียรติบัตรแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 12 ราย วางพวงมาลารำลึกถวาย คุณพุ่ม เจนเซน และทำพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา ทั้ง พุทธ คริสต์ และอิสลาม ส่วนภาคบ่ายจัดแสดงสาธิตการช่วยเหลือและรับมือด้านภัยพิบัติ พิธีรำลึกครบรอบ 11 ปี ยืนสงบนิ่งไว้อาลัย พร้อมทั้งปล่อยโคมลอยเพื่อรำลึกถึงผู้ที่จากไปจากเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2547
Source: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451106452