บุกรวบ 2 โจ๋สวมเสื้อเกราะกันกระสุน รับจ้างส่งยาบ้า - ลั่นจะสู้!! ไม่ยอมติดคุก


เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ธันวาคม ที่หน้า บก.ภ.จว.อุดรธานี นายสมหวัง พ่วงบางโพธิ์ รอง ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.อ.พิทักษ์ จันทร์เขียว เสนาธิการ กองกำลังพล รักษาความเรียบร้อย อุดรธานี พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ ภูขาว รอง ผกก.สืบสวน ปรก.กก.สส.ภ.จว.อุดรฯ พ.ต.ต.สุรพล ทองเงิน สว.ปรก.ศอ.ปส.ภ.จว.อุดรฯ ได้นำตัวนายธณัฐชา หรือแป๊ก ทองแดง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.3 บ้านสระใคร ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย และนายวราวุฒิ หรือเจมส์ ศรีหานนท์ อายุ 19 ปี 11 เดือน อยู่บ้านเลขที่ 196 ม.3 บ้านสระใคร ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย ออกมาแถลงข่าว

ในข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, มีเครื่องยุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะกันกระสุน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพและเป็นผู้ขับขี่รถ (รถ จยย.) เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางมียาบ้า 5,840 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 38 ม.ม.1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 38 ม.ม.6 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นอาร์ 15 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ขวบใส่ตัวอย่างปัสสาวะของทั้ง 2 คน 2 ขวด

พล.ต.ต.พีระพงศ์ฯ เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ ได้สั่งการให้เจ้าพนักงานตำรวจ ศอ.ปส.ภ.จว.อุดรฯ ออกสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในเขตพื้นที่ จนต่อมา พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ฯ ได้สืบทราบว่าได้มีสาวชาวลาว ชื่อนางทม ไม่ทราบนามสกุลจริงได้ลักลอบนำยาบ้ามาส่งให้เครือข่ายที่บ้านเทื่อม ม.12 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรฯให้นำจำหน่ายในพื้นที่ ต.เขือน้ำ ฯ และพื้นที่ใกล้เคียงจึงได้ส่งสายลับออกไปติดต่อและสามารถติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนางทมได้ ต่อมานางทมได้แจ้งสายลับให้ทราบว่าจะมีนายแป๊กและเพื่อน เป็นผู้นำยาบ้ามาส่งให้ที่บ้านเลขที่ 16 ม.12 บ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือฯ จากนั้น พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ฯ จึงได้นำชุดเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ไปตรวจสอบบริเวณโดยรอบ และซุ่มดูเหตุการณ์ในบ้านดังกล่าว

ต่อมาในเวลา 02.30 น.วันนี้ (10 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ก็ได้มีชายไทยทราบชื่อภายหลังคือนายแป๊ก ได้ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า อาร์15 สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยนายเจมส์ เป็นคนซ้อนท้ายซี่งมีตำหนิรูปพรรณตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ มาจอดที่บริเวณบ้านดังกล่าว แล้วเดินเข้ามาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ฯ จึงรีบนำกำลังเข้าชาร์ททั้ง 2 คนแล้วแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการตรวจค้นพบยาบ้าของกลาง 29 ถุง จำนวน 5,840 เม็ด อยู่ในกล่องกระดาษซุกซ่อนอยู่ในเป้ากางเกงด้านหน้าของนายเจมส์ และตรวจค้นนายแป๊กพบสวมเสื้อเกราะกันกระสุน และอาวุธปืนสั้น กระสุนปืน และโทรศัพท์ในกระกระเป๋าแบบสะพาย จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คนมาสอบสวน ที่บก.ภ.จว.อุดรธานี

พล.ต.ต.พีระพงศ์ฯ กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนนายธณัฐชา หรือแป๊กฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าทีมงานมี 3 คนคือตนเอง นายเจมส์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และนายนิกส์ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ได้รับจ้างจากนางทม ให้ไปส่งยาบ้าให้กับเครือข่ายใน ต.เขือน้ำ จำนวน 3 มัดโดยได้ค่าจ้างเป็นยาบ้า 2 ถุง(ยาบ้ามัดละ 10 ถุง ๆ ละ 200 เม็ด รวม 2,000 เม็ด) โดยนายนิกส์ ได้แบ่งเอาไปก่อนแล้ว 1 ถุง จากนั้นก็จะนำยาบ้าไปขายในราคาถุงละ 25,000 บาท แล้วนำเงินมาแบ่งกัน โดยได้รับงานจากนางทม มา 3 ครั้งแล้ว
นายแป๊ก ให้การต่อไปว่าทุกครั้งนางทมจะให้ชายไม่ทราบเป็นคนชาติใดติดต่อทางโทรศัพท์ แล้วชายดังกล่าวจะนำยาบ้ามาส่งให้โดยวางไว้ที่เสาไฟฟ้า หรือบริเวณสะพานข้ามลำห้วยหลวง ถนนมิตรภาพ รอยต่อ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี กับ อ.สระใคร จ.หนองคาย โดยในครั้งนี้ให้พวกตนไปเอายาบ้าที่วางไว้บริเวณสะพานถนนมิตรภาพดังกล่าว และยาบ้าบางส่วนตนก็นำไปเสพเอง

สำหรับเสื้อเกราะนั้นตนได้ซื้อมาจากพ่อค้าขายเครื่องสนามที่บ้านหนองผือ อ.สระใคร จ.หนองคาย อาวุธปืนนั้นยืมมาจากเพื่อนคนหนึ่งชื่อนายเฟม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ที่บ้านน้ำสวย อ.สระใคร จ.หนองคาย ก่อนหน้านี้ตนและนายเจมส์เคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาบ้า และออกมาแล้วก็ยังเสพอยู่จะเสพยาบ้าวันละ 3 เม็ด ต่อมาจึงได้ผันเป็นคนส่งยาบ้าหรือในวงการเรียกว่า "นักบิน" ในครั้งนี้ตนได้ประกาศกับคนที่มาซื้อแล้วว่า "กูไม่กลัวถูกจับหรอก กูพร้อมแล้วที่จะสู้กับตำรวจ" ส่วนเงินที่ได้จะนำไปจ่ายเป็นค่าผ่อนรถเก๋ง และรถจักรยานยนต์คันที่ก่อนเหตุ ซึ่งพึ่งซื้อมาโดยจ่ายดาวน์ไปเป็นเงิน 3 หมื่นบาท ยังไม่ทันได้ส่งงวดรถงวดแรก

หลังจากนั้น พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ฯ จึงควบคุมตัว นายธณัฐชา หรือแป๊ก ทองแดง และนายวราวุฒิ หรือเจมส์ ศรีหานนท์ ไปตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติดปนเปื้อนอยู่ในปัสสาวะแล้วนำตัวอย่างปัสสาวะของทั้ง 2 คนไปยัง ร.พ.ศูนย์อุดรฯ เพื่อตรวจยืนยันผลการตรวจและได้รับผลการยืนยันว่าตัวอย่างปัสสาวะของทั้ง 2 คนมีสารเสพติดปนเปื้อนอยู่ในปัสสาวะจริง

พล.ต.ต.พีระพงศ์ฯ กล่าวต่อในตอนท้ายว่า หลังจากที่ได้มีการปราบปรามยาเสพติดหรือยาบ้าตามชายแดนภาคเหนืออย่างหนักแล้ว ทำให้พ่อค้ายาบ้าจึงได้เปลี่ยนมาส่งตามเส้นทางตามแนวแม่น้ำโขง  ซึ่งมีความยาวมาก โดยสามารถที่จะเข้าสู่ประเทศไทยตามแนวชายแดนในภาคอีสานได้ง่ายทุกช่วง ทั้งหนองคาย และนครพนม เนื่องจากแม่น้ำโขงมีความยาวมาก บางครั้งก็เข้ามาสะพานไทยลาว และหลังจากที่ได้ทำการปราบปรามอย่างหนัก ก็ทำให้คนร้ายเริ่มมาใช้อาวุธกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับมาทุกครั้งให้ทุกคนได้ระมัดระวังด้วย โดยเฉพาะในครั้งนี้จะเห็นว่าคนร้ายนอกจากจะมีอาวุธปืนแล้วยังมีถึงเสื้อเกราะด้วย และประกาศไม่กลัวตำรวจ จะไม่ยอมให้จับกุมด้วย ดีที่ครั้งนี้เราได้เข้าชาร์ทเสียก่อนที่คนร้ายจะไหวตัวทัน จึงทำให้ไม่เกิดอันตรายขึ้น ส่วนคนร้ายอีกคนคือนายนิกส์นั้น ขณะนี้เราทราบตัวแล้วว่าเป็นลูกข้าราชการของคนมีสีคนหนึ่งในหนองคาย ก็ขอให้มามอบตัวเสียหรือขอให้พ่อนำมามอบตัวเสีย เพราะทางเรารู้ตัวแล้วว่าเป็นใครลูกของใคร

หลังจากนั้น พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ฯ จึงควบคุมตัว นายธณัฐชา หรือแป๊ก ทองแดง และนายวราวุฒิ หรือเจมส์ ศรีหานนท์ พร้อมของกลางมอบให้ร้อยเวร สภ.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นำไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะติดตามจับกุมนายนิกส์ต่อไป


Source: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1449732691