เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. นายแชมพา พาเทล ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลตัดสินประหารชีวิต 2 แรงงานพม่า จำเลยฆ่า 2 นักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า เมื่อปี 2557 ว่า แอมเนสตี้ฯ มีความกังวลอย่างยิ่งต่อการสั่งประหารชีวิตจำเลยชาวพม่าทั้งสองคน โทษประหารชีวิตเป็นการละเมิดสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่และ เป็นการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีมากสุด โดยไม่มีผลที่พิสูจน์ได้ว่า ช่วยในการป้องปรามหรือลดการเกิดอาชญากรรม เมื่อเปรียบเทียบกับการลงโทษในรูปแบบอื่น
“ทางการไทยต้องลดหย่อนโทษในคดีนี้ และดำเนินการโดยทันที เพื่อยกเลิกโทษประหารจากกฎหมาย หวังว่าทางการไทยจะประกันให้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยเคารพต่อกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เพื่อให้ครอบครัวของ น.ส.ฮานน่าห์ วิทเธอริดจ์ และนายเดวิด มิลเลอร์ ได้รับความยุติธรรมและไม่มีความกังวลใจเกิดขึ้น”
นายแซมพา กล่าวต่อว่า ประเทศไทยไม่มีการประหารชีวิตบุคคลในประเทศมาตั้งแต่ปี 2552 ในขณะที่ทางการไทยแสดงพันธกิจมุ่งหน้ายกเลิกโทษประหารชีวิต แต่ในช่วงปี 2558 จำนวนความผิดที่มีโทษประหารชีวิตกลับเพิ่มขึ้น
Source: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451013958
