รวบแล้ว 3 โจ๋มือฆ่าหนุ่มลูกเรือประมง สารภาพแค้นที่มาแอบกิ๊กกับแฟน


 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่สภ.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.กันตัง พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ชัยพล รอง ผกก.สส.สภ.กันตัง พร้อมตำรวจชุดสายสืบสวน ป้องกันปราบปราม ร่วมแถลงข่าวแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาฆ่านายเปาซอน สัญชาติกัมพูชา อายุ 25 ปี ลูกเรือประมงในแพปลา พื้นที่อำเภอกันตัง ซึ่งเกิดเหตุบริเวณริมถนนวังวน-กันตังใต้ ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. เวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้บังคับผู้ตาย (นายเปาซอนสัญชาติกัมพูชา) ให้ขับรถจักรยานยนต์ไปในที่เกิดเหตุ โดยกลุ่มคนร้ายขับรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ประกอบติดตามไป จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นจ่อยิงใส่ผู้ตาย ถึงแก่ความตายแล้วหลบหนีไป จากการผ่าชันสูตรพลิกศพ พบบาดแผลบริเวณโหนกแก้มซ้ายทะลุตา จำนวน 2 นัด และได้ผ่านำกระหัวกระสุนปืนออกมา ขนาด .22 จำนวน 1 หัว

 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กันตัง ออกทำการสืบสวนหาข่าวกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีจำนวน 3 คน และสามารถทำจับกุมได้ คือ 1.นายนรินทร์ หรือเจมส์ จงรักษ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ถ.หลังโรงเรียนคลองภาษี ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง 2.นายนภดล หรือตั้ม สุจริยา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.3 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง จ.ตรัง และ 3.นายจตพล หรือหัวแดง ช่างประดิษฐ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.3 ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นขนาด .22 ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 1 กค 4786 ตรัง จำนวน 1 คัน อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย
 
 ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้สารภาพและยอมรับว่า ได้บังคับผู้ตายไปในที่เกิดเหตุจริง และร่วมกันฆ่าผู้ตายจริง สาเหตุมาจากผู้ตายไปมีความสัมพันธ์ กับแฟนสาวของนายนรินทร์ หรือเจมส์ จงรักษ์ และได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง เพื่อทำการตรวจสอบลายนิ้วมือและเขม่าดินปืน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เพื่อประกอบหลักฐานที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสวนสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรโดยไม่ได้รับอนุญาต

Source:  http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1450863879