สลด-แม่เป็นมะเร็งขณะตั้งท้อง ใจเด็ดเลื่อนทำคีโมเพื่อปกป้องลูก แต่ทารกกลับเสียชีวิตหลังคลอด8วัน

เว็บไซต์เดลีเมล์รายงานว่า คุณแม่ตั้งครรภ์วัย 33 ปี ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมเลื่อนการทำคีโมออกไป เพื่อไม่ให้ลูกในท้องได้รับผลกระทบทางเคมี แต่สุดท้ายลูกน้อยเสียชีวิตหลังเกิดได้เพียง 8 วัน


นางไฮดี ลอฟลิน อายุ 33 ปี จากเมืองพอร์ติสเฮด ประเทศอังกฤษ ทราบว่าตัวเองป่วยมะเร็งเต้านมหลังจากตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 ได้เพียง 3 เดือน ซึ่งตอนนั้นแพทย์เสนอให้นางไฮดีทำแท้งไปก่อน เพื่อรับการทำคีโมหรือการรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดทันที แต่นางไฮดีตัดสินใจเลื่อนการรับการรักษาไปก่อนเพื่อรักษาชีวิตลูกน้อยไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสารเคมี  โดยใช้ยาที่มีความรุนแรงน้อยลงแทน


 เมื่ออาการป่วยของนางไฮดีหนักขึ้น และยาที่ใช้อยู่ไม่สามาถรักษาอาการได้ แพทย์จึงแนะให้นางไฮดีคลอดก่อนกำหนด เพื่อรับการรักษาด้วยสารเคมีตัวที่แรงกว่าโดยเร็วที่สุด แม้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ที่สุดแล้วนางไฮดีจึงต้องคลอดลูกสาวคือ แอลลี หลุยส์ สมิธ ทั้งที่อายุครรภ์เพียง 28 สัปดาห์เท่านั้น ทารกมีน้ำหนัก 1.04 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อแรกคลอดนั้นทารกมีอาการปลอดภัยดี แต่แล้วกลับเสียชีวิตในอีก 8 วันต่อมา สร้างความเสียใจแก่นางไฮดีและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ผู้คนจำนวนมากในโลกโซเชียลต่างให้กำลังใจนางไฮดีและยกย่องความรักของแม่ที่มีต่อลูก

ไฮดีกับลูกชาย

 ทั้งนี้ รายงานระบุว่า การคลอดบุตรขณะอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ตามปกติแล้วทารกมีโอกาสรอดชีวิตถึงร้อยละ 90 ล่าสุดนางไฮดียังคงรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือคีโมต่อไป และน่าจะรู้ผลการรักษาประมาณเดือนมี.ค. ปีหน้าa

Source:  http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1450682312