(เส้นทาง โคเซ่ มูคิก้า ผู้นำประเทศที่จนที่สุดในโลก)
– 1960 เริ่มเข้าสู่วงการการเมือง โดยได้เข้าร่วมกลุ่ม ทหารคอมมิวนิสต์ Tupamaros ต่อมาเขาถูกจับและติดคุกแต่หนีออกจากคุกมาได้แต่ก็ถูกจับอีก สุดท้าย โฮเซ มูจีกา ติดคุกรวมเป็นเวลา 14 ปี
– 1985 ประเทศอุรุกวัย ล้มเลิกระบอบคอมมิวนิสต์ และ กลับเป็นประชาธิปไตย ทำให้ โคเซ่ มูคิก้า เป็นอิสระในปีนี้
– 1999 โคเซ่ มูคิก้า ได้รับเลือกให้เป็นวุฒิสมาชิกในวุฒิสภา
– 2005 โคเซ่ มูคิก้า ได้เป็น รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงปศุสัตว์ เกษตรกรรม และการประมง เนื่องจากในอดีตครอบครัวเขาเป็นเกษตรกร นั่นเอง
– 2010 โคเซ่ มูคิก้า ได้ขึ้นเป็น ประธานาธิบดีของประเทศอุรุกวัย
สำหรับชีวิตส่วนตัว โคเซ่ มูคิก้า ในปี 2005 เขาได้แต่งงานกับภรรยาซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกของวุฒิสภา ทั้งสองใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสมถะ และไม่มีลูกกับสุนัขพิการ 3 ขา พวกเขาอาศัยอยู่นอกเมืองหลวง โดยประกอบอาชีพเสริมด้วยการปลูกสวนดอกไม้
ซึ่งจริงๆ แล้วตำแหน่ง ประธานาธิบดีของประเทศอุรุกวัย จะได้บ้านหลังใหญ่แสนหรูหราประจำตำแหน่ง แต่ โฮเซ มูจีกา เลี่ยงที่จะรับบ้านหลังใหญ่ไว้และเลือก มาใช้ชีวิตที่นอกเมืองแทน อย่างไรก็ตาม ที่หน้าบ้านของเขาจะมีตำรวจ 2 นายที่คอยประจำการและดูแลความปลอดภัยให้อยู่ด้วย
บ้านของ โคเซ่ มูคิก้า ไม่ได้มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายอะไรเลย น้ำที่ใช้ก็มาจากบ่อน้ำบริเวณบ้าน เวลาที่ซักผ้าก็ซักด้วยมือและนำออกมาตากนอกบ้าน ไม่ได้ใช้เครื่องซักผ้าราคาแพงหรือมีคนใช้คอยรับใช้แต่อย่างใด แต่ ประธานาธิบดี โคเซ่ มูคิก้า ท่านนี้ก็พอใจกับสิ่งที่เขามีอยู่ เพราะเขาเชื่อว่าความมั่งคั่งไม่สามารถซื้อความสุขได้
ในปี 2011 ที่ผ่านมา โคเซ่ มูคิก้า เปิดเผยทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมด โดยเขามีทรัพย์สินทั้งหมดเพียง 5 ล้าน 4 แสนบาท ถือเป็น ผู้นำประเทศที่จนที่สุดในโลก
ซึ่ง ผู้นำประเทศที่รวยที่สุดในโลก คือ สุลต่านแห่งบรูไน มีทรัพย์สินทั้งหมด 600,000,000ล้านบาท (หกร้อยล้านล้านบาท)
ผู้นำประเทศที่จนที่สุดในโลก โฮเซ่ มูฮีก้า จะหมดวาระ ประธานาธิบดี ในปี 2014 ซึ่งคาดว่า ประธานาธิบดี ท่านนี้อาจจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งต่อ เพราะเขาตั้งใจจะเกษียณตัวเองและใช้ชีวิตอย่างสงบ ในบ้านหลังเล็กๆ กับภรรยาจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
“ฉันถูกเรียกว่าเป็น ผู้นำประเทศที่จนที่สุดในโลก แต่ฉันกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองจน คนจนส่วนมากคือคนที่ทำงานเพียงเพื่อจะพยายามที่จะมีชีวิตแบบคนรวย และมีความต้องการที่ไม่สิ้นสุด”
“นี่คือความอิสระ ถ้าคุณไม่ได้มีทรัพย์สินมาก คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักตลอดชีวิตเพื่อหาทางรักษาทรัพย์สมบัติเหล่านั้นไว้ นั่นจะทำให้คุณมีเวลาเพื่อตัวเองมากขึ้นด้วย”
“จักรวาลนี้มีทรัพยากรเพียงพอที่จะทำให้คนจำนวน 7,000-8,000 ล้านคนได้ใช้อย่างเท่าเทียมกันเหมือนที่เห็นในสังคมของพวกคนรวยหรือเปล่า? ทุกวันนี้สังคมมนุษย์มีการบริโภคแบบ Hyper Consumption หรือการกักตุนเอาไว้ก่อน ซึ่งเป็นการ ทำลายจักรวาลที่แท้จริง”
Source: http://www.khaozaza.com/17285
