ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นายจตุรงค์ ผ่องลำเจียก ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตฯเข้าแจ้งความที่ สน.เทียนทะเล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ลักลอบเข้าไปถ่ายภาพอนาจารในพื้นที่สาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 ที่ระบุว่าผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลโดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกายหรือกระทำการลามกอย่างอื่นต้องระวางโทษปรับไม่เกิน500 บาทและได้ให้เจ้าหน้าที่หาข้อมูลหลักฐานต่อไปเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในการนำภาพไปเผยแพร่ต่อตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
นายจตุรงค์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเขตฯได้ปิดสะพานไม้ทางเดินชมธรรมชาติชายทะเลบางขุนเทียน ที่มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรเพื่อเตรียมก่อสร้างใหม่ทั้งหมดให้เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก จึงคาดว่าคณะถ่ายภาพดังกล่าว คงจะลักลอบเข้าไปถ่ายทำในช่วงที่ปิดพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าจุดที่ถ่ายภาพอยู่ค่อนข้างลึก จึงไม่แน่ใจว่าเดินเข้าไปหรือนั่งเรือเข้าไปจากนี้ จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจตราเข้มงวดมากขึ้นในระหว่างที่รอก่อสร้างและอยู่ในขั้นตอนลงนามสัญญากับผู้รับจ้าง และจะเริ่มก่อสร้างในเร็วๆนี้ และขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันสอดส่องด้วย ทั้งนี้ที่ผ่านมาการเข้าไปถ่ายทำใดๆเพื่อนำไปเผยแพร่สู่สาธารณะต้องขออนุญาตกับทางเขต ซึ่งจุดดังกล่าวมักมีรายการท่องเที่ยวเชิงสารคดีขอเข้าไปถ่ายทำแต่ยังไม่พบการถ่ายภาพอนาจารในลักษณะนี้
ต่อมาเวลา11.30 น. ที่สน.เทียนทะเล น.ส.สมบัติ นามพินิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต บางขุนเทียน เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ยศ วิทิตปภาธำรง ผกก.สน.เทียนทะเล เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เป็นแบบและทีมงานในการถ่ายภาพอนาจารดังกล่าวในข้อหา กระทำการอนาจารหรืออันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยนำภาพถ่ายเส้นทางสถานที่เกิดเหตุและภาพถ่ายที่ถ่ายนู้ดที่ทีการแชร์ในโซเชียลมีเดียมามอบไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.สมบัติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ได้มีการแชร์ภาพลักษณะเป็นหญิงสาว เปลือยกายลงในโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย จากการตรวจสอบพบว่าเข้าไปถ่ายภาพที่บริเวณสะพานไม้ ซึ่งเป็นเส้นทางชมธรรมชาติป่าชายเลน เขตบางขุนเทียน และเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดป้ายประกาศว่าเส้นทางดังกล่าวอยู่ระหว่างปิดปรับปรุง เนื่องจากเส้นทางและสะพานมีลักษณะค่อนข้างเก่า หากจะเข้าไปนั่นจะต้องไปโดยจยย.หรือเดินเท้า หรือล่องเรือ ทั้งนี้ เกรงว่าประชาชนจะได้รับอันตราย อย่างไรก็ตาม การจะเข้าไปบันทึกเทปหรือถ่ายทำ จะต้องมีหนังสือขออนุญาตให้ทางเขตรับทราบก่อน แต่กรณีดังกล่าวนั้นทางเขตไม่ทราบเรื่องมาก่อน โดยหลังจากนี้จะต้องขอความร่วมมือจากชุมชนให้ช่วยเป็นหูเป็นตาเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่เหมาะสมอีก
ด้านพ.ต.อ.ยศ เปิดเผยว่า จากการให้ตำรวจสายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามพยานพบว่าเหตุการถ่ายภาพดังกล่าวน่าจะเกิดประมาณปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ทราบว่ามีการเข้าไปดูและสังเกตสถานที่แล้วรอบหนึ่งจากนั้น 1-2 วันก็กลับไปอีกครั้งเพื่อถ่ายภาพเซ็ทดังกล่าว แต่เพิ่งจะมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม
พ.ต.อ.ยศกล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากับกลุ่มบุคคลดังกล่าวในข้อหากระทำการอนาจารหรืออันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล หรือเปลือยกาย นอกจากนี้ยอมรับว่าทราบตัวผู้เป็นนางแบบแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวเพื่อนำมาสอบปากคำ ขณะเดียวกันจะต้องติดตามผู้ร่วมก่อเหตุคือทีมงานที่ร่วมถ่ายภาพดังกล่าว ก่อนจะประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)เพื่อติดตามตัวผู้โพสต์รูปอนาจารดังกล่าวต่อไป
Source: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1450935785