
ต่อมานายอุทัย สัตนันท์ อายุ 71 ปี บิดาของผู้ตาย พร้อมญาติๆเห็นสภาพศพแล้วเกิดความสงสัยในสาเหตุการตาย เนื่องจากตามร่างกายมีร่องรอยบวมช้ำทั้งหน้าอกและข้างลำตัว จึงขอให้พนักงานสอบสวนส่งศพไปผ่าชันสูตรศพที่นิติเวชโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ก่อนที่ญาติจะเปลี่ยนใจ นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่นแทน โดยการชันสูตรพลิกศพเสร็จในเย็นวันเดียวกัน ซึ่งแพทย์แจ้งว่าจะทราบผลภายใน 1-3 สัปดาห์ ญาติจึงนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด เลขที่ 43 หมู่ 1 ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด

ต่อมาในวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากญาติของผู้ตาย โดยทั้งหมดเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเตรียมนำศพขึ้นรถไปแห่ประท้วงที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.พนมไพร ขณะที่ญาติกำลังเตรียมการอยู่นั้น พ.ต.อ.นพพร แก้วยนต์ ผกก.สภ.พนมไพร พร้อมด้วยพ.ต.ท.สุริยา ยอดวงษ์ พงส.ผนพ.สภ.พนมไพร ได้เข้าไปเจรจา ขอให้ชาวบ้านและผู้นำชุมชน ชะลอการแห่ศพประท้วง และอธิบายขั้นตอนการดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยพ.ต.อ.นพพรรับปากว่าจะสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยขอรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์เสียก่อน ญาติจึงยกเลิกการแห่ศพไปประท้วงขอความเป็นธรรม

นางลำเยาว์ สัตนันท์ น้องสาวของผู้ตาย กล่าวว่า พวกตนจะไม่นำศพของนายอุไรไปเผาเด็ดขาด จะเก็บศพใส่โลงเย็นตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีอยู่ที่บ้าน เพื่อรอผลการผ่าพิสูจน์ศพจากแพทย์ เมื่อทราบผลแล้วจึงจะปรึกษากันอีกครั้งหนึ่งว่าจะทำอย่างไรต่อไป


ด้านพล.ต.สถาพร ใบพลูทอง ผู้บังคับการมลฑลทหารบกที่ 27 ร้อยเอ็ด กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ต้องรอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์เสียก่อนว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร หากผลออกมาพบว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีละเว้น ขอให้ทางญาติสบายใจได้
Source: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1450847517