ญาติร้องหนุ่มโดนทหารใช้ม.44 จับคดียาบ้าไปขังค่าย รุ่งขึ้นเป็นศพ ผบ.มทบ.27 ยันให้ความเป็นธรรม

 เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2558 เวลา 19.00 น. ทหารชุด รส.ร.16 พัน 1 ฐานปฏิบัติการชั่วคราวกู่ขุมเงิน บ้านชะโด ต.โคกสว่าง อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด บุกจับกุมนายอุไร  สัตนันท์ อายุ 40 ปี จากร้านขายของชำ ตั้งอยู่เลขที่ 102 หมู่ 10 ต.คำไฮ  อ.พนมไพร แล้วควบคุมตัวไปสอบสวนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ตามอำนาจแห่งมาตรา 44 รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558  กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 21 ธ.ค. 2558 พบว่านายอุไรนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องควบคุม


  ต่อมานายอุทัย สัตนันท์ อายุ 71 ปี บิดาของผู้ตาย พร้อมญาติๆเห็นสภาพศพแล้วเกิดความสงสัยในสาเหตุการตาย เนื่องจากตามร่างกายมีร่องรอยบวมช้ำทั้งหน้าอกและข้างลำตัว จึงขอให้พนักงานสอบสวนส่งศพไปผ่าชันสูตรศพที่นิติเวชโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ก่อนที่ญาติจะเปลี่ยนใจ นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่นแทน โดยการชันสูตรพลิกศพเสร็จในเย็นวันเดียวกัน ซึ่งแพทย์แจ้งว่าจะทราบผลภายใน 1-3 สัปดาห์  ญาติจึงนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด เลขที่ 43 หมู่ 1 ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด


 ต่อมาในวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากญาติของผู้ตาย โดยทั้งหมดเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเตรียมนำศพขึ้นรถไปแห่ประท้วงที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.พนมไพร  ขณะที่ญาติกำลังเตรียมการอยู่นั้น พ.ต.อ.นพพร แก้วยนต์ ผกก.สภ.พนมไพร พร้อมด้วยพ.ต.ท.สุริยา ยอดวงษ์ พงส.ผนพ.สภ.พนมไพร ได้เข้าไปเจรจา ขอให้ชาวบ้านและผู้นำชุมชน ชะลอการแห่ศพประท้วง และอธิบายขั้นตอนการดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยพ.ต.อ.นพพรรับปากว่าจะสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยขอรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์เสียก่อน ญาติจึงยกเลิกการแห่ศพไปประท้วงขอความเป็นธรรม

  นางลำเยาว์ สัตนันท์ น้องสาวของผู้ตาย กล่าวว่า พวกตนจะไม่นำศพของนายอุไรไปเผาเด็ดขาด จะเก็บศพใส่โลงเย็นตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีอยู่ที่บ้าน เพื่อรอผลการผ่าพิสูจน์ศพจากแพทย์ เมื่อทราบผลแล้วจึงจะปรึกษากันอีกครั้งหนึ่งว่าจะทำอย่างไรต่อไป


 นางมะลีจันทร์ โมลา อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะที่นายอุไรกำลังจอดรถจักรยานยนต์เพื่อมาซื้อของ ได้เห็นผู้ชายประมาณ 3 คน แต่งกายชุดธรรมดา สวมหมวกแก๊ป ขับรถจักรยานยนต์ซ้อนสามมาจอดหน้าร้านแล้วถามว่าใครชื่ออุไร นายอุไรตอบว่า"ผมครับ" ชายทั้งสามคนก็กรูกันเข้ามาจับนายอุไรใส่กุญแจมือ จากนั้นชายอีกคนก็โทรศัพท์และบอกว่าจับได้แล้ว ในเวลาต่อมาก็มีชายอีกหนึ่งคนขับรถเก๋งสีแดงไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน กท 1559 อุบลราชธานี มานำตัวนายอุไรขึ้นรถไป ซึ่งตลอดการเข้ามาควบคุมตัวชายกลุ่มดังกล่าวไม่ได้บอกว่าเป็นใครมาจากไหน สร้างความสงสัยให้กับชาวบ้าน กระทั่งในช่วงเช้าญาติจึงได้รับแจ้งว่านายอุไรเสียชีวิตแล้ว

ด้านพล.ต.สถาพร ใบพลูทอง ผู้บังคับการมลฑลทหารบกที่ 27 ร้อยเอ็ด กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ต้องรอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์เสียก่อนว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร หากผลออกมาพบว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีละเว้น ขอให้ทางญาติสบายใจได้

Source:  http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1450847517