ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน หัวหน้าหน่วยตรวจ NAT(Nucleic acid testing) ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ออกโรงเตือนคนที่บริจาคเลือด ว่าอย่าหวังตรวจหาเชื้อไวรัสต่างๆ ฟรีระหว่างการตรวจคัดกรองเลือด เพราะอยากให้ผู้ที่มาบริจาคเลือด มั่นใจว่าตนเองสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่เจ็บป่วย ไม่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อโรคร้ายใดๆ เพื่อความมั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับเลือดที่ดี ปลอดภัย พร้อมใช้งานได้จริง
นอกจากนี้ยังย้ำอีกว่า หากผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น ไวรัสตับอับเสบบี หรือเชื้อ HIV มาบริจาคเลือด หลังจากมีความเสี่ยงในไม่กี่วัน อาจจะยังตรวจพบไม่เจอเชื้อเหล่านั้น เท่ากับเป็นการส่งต่อเชื้อร้ายให้กับผู้ป่วยโดยไม่ได้ตั้งใจได้อีกด้วย
โดยความเข้าใจผิดดังกล่าวที่ปล่อยจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีเนื้อหาว่า “การป้องกันและรักษา โรคไวรัสตับอับเสบบี คือการตรวจคัดกรองไวรัสตับอับเสบจากการบริจาคเลือด” นั้น ทำให้ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คเพจว่า ไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าการมาบริจาคเลือด เท่ากับการตรวจเลือดหาเชื้อโรค เพราะในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ทางศูนย์จะมีการตรวจคัดกรองหาเชื้อโรคในเลือดก่อนรับบริจาค และก่อนใช้งานจริง แต่หากผู้ที่มาบริจาคอยู่ภาวะเสี่ยงต่อโรคใดโรคหนึ่งเพียงในระยะไม่กี่วัน ระยะเวลาอาจไม่มากพอที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อนั้นๆ เจอได้ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี จะตรวจพบเจอเชื้อในเลือดเมื่อผ่านวันที่ได้รับเชื้อไปอย่างเร็วที่สุดคือ 33 วัน ไวรัสตับอับเสบชนิดซี ใช้เวลา 12 วัน และเชื้อ HIV ต้องใช้เวลาถึง 11 วัน
Sanook! Health แนะนำว่าเมื่อเราไปบริจาคเลือด ต้อวกรอกรายละเอียดภาวะเสี่ยงโรคต่างๆ ในแบบฟอร์มอย่างละเอียด และด้วยความเป็นจริงทั้งหมด เพื่อความแม่นยำในการสันนิษฐานถึงความเสี่ยงต่างๆ ในเลือดของคุณก่อนรับบริจาค นอกจากนี้ควรมีความมั่นใจในตัวเองระดับหนึ่งว่า ร่างกายของเรามีเลือดที่สุขภาพดี ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่อยู่ในภาวะเสี่ยงโรคร้ายใดๆ ด้วยใจบริสุทธิ์ที่อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ต้องการเลือดของเราจริงๆ หากอยากตรวจเลือดเพื่อหาความผิดปกติของร่างกาย ควรขอรับตรวจเลือดที่โรงพยาบาลเลยจะดีที่สุดค่ะ ปลอดภัยทั้งกับตัวคุณเอง และผู้ป่วยท่านอื่นด้วยนะคะ
Source: http://health.sanook.com/2109/